วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

มีอะไรในน้ำชา...



        เขตพระนครชั้นใน บริเวณถนนมหาราช เป็นบริเวณที่มีสิ่งก่อสร้างเก่าๆ ทั้งอาคารพาณิชย์และอื่นๆมากมาย เหมือนประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิต เป็นเสน่ห์ในตัวเอง คนต่างชาติที่สนใจประวัติศาสตร์หลายคน นิยมมาเดินเที่ยวชมเมืองเก่าแบบนี้ มีหนังสือคู่มือนำเที่ยวเล่มหนึ่ง ก็อ่านไปเดินไป เท่ากับได้ซึมซับรากเหง้าแห่งอารยธรรมของประเทศด้วยตน เอง ปัจจุบัน จึงมีโรงแรมขนาดเล็กสร้างเพื่อรองรับตลาดกุล่มนี้ บางแห่งก็ออกแบบ ตกแต่ง ให้คล้ายสถาปัตยกรรมยุโรป หรือเหมาะสมกลมกลืนกับอาคารในบริเวณใกล้เคียง
            ถนนมหาราช แม้จะมีตลาดกลางค้าส่ง อย่างปากคลองตลาดอยู่ใกล้เคียง แต่ส่วนที่ผ่านด้านหลังวัดโพธิ์ ก็ยังมีเวลาที่การจราจรเบาบาง อาคารร้านค้าริมถนนสายนี้ ส่วนที่ติดแม่น้ำ ไม่ใช่โกดังสินค้า แต่เป็นอาคารพาณิชย์เสียมากกว่า มีซอยเล็กๆตัดลงไปถึงริมน้ำเป็นระยะ เมื่อเดินเข้าซอยไป ความพลุกพล่านก็สงบลง ไม่เหมือนอยู่ในเขตการค้าที่จอแจมากนัก ใครที่เดินเที่ยวชมเมืองแถบนั้นจนเหนื่อยแล้ว ถ้าได้นั่งพักผ่อน จิบน้ำชายามบ่าย ในบรรยากาศสบายริมแม่น้ำ ก็น่าจะมีความสุขอีกแบบหนึ่ง ยิ่งถ้าได้นั่งที่ระเบียง รับลมเย็นจากแม่น้ำ มองดูเรือแล่นไปมา มีภาพพระราชวังเดิม และพระปรางวัดอรุณราชวรารามอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ ก็ยิ่งเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งการพักผ่อนที่หาได้ยากทีเดียว
          ดังนั้น เมื่อเดินมาถึงซอยทางเข้าร้านกาแฟร้านหนึ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปสั่งขนมกับน้ำชา เพื่อจะได้นั่งเพลิดเพลินกับบรรยากาศให้หายเมื่อยสักครู่ ทั้งๆที่เป็นวันหยุด ก็มีคนคิดเหมือนเราหลายคนเหมือนกัน แหม่มคนหนึ่งมีหนังสือมานั่งอ่านใต้ร่มสนาม ในมุมร่มรื่น คงนั่งไปจนกว่าแซนด์วิชและน้ำส้มจะหมด... ร้านนี้คงไม่ค่อยว่างคนนัก ขนมเขาก็รสชาดใช้ได้ทีเดียว แต่รู้สึกว่า...วิธีเสิร์ฟน้ำชาค่อนข้างแปลกหน่อย ตอนรับออเดอร์ พนักงานถามว่า แยกนมไหมครับ ก็งง... เพราะตามมาตรฐานทั่วไป น้ำชานั้นต้องปรุงเอง แต่ก็บอกเขา (เพื่อป้องกันความไม่เข้าใจกัน) ว่า แยกนมและน้ำตาลด้วย เขาก็ให้น้ำตาลหนึ่งซอง กับนมสดเหยือกเล็ก-เล้ก-ก-ก ต่อน้ำชาหนึ่งกา ตอนชงเสร็จยิ่ง... เอ้อ... มีอะไรลอยมาในน้ำชาหนูคะเนี่ย... หนูทานอาหารมังสวิรัติค่า-า-า... 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น